สพฐ.ลั่นพร้อมฟัน ทั้งผู้บริหาร-ครู เอี่ยวโกงฟุตซอล

ศึกษาธิการ 

รองเลขาฯ กพฐ.ยอมรับรายชื่อเอี่ยวทุจริตสร้างสนามฟุตซอล ส่วนใหญ่เป็นผู้บริหารสถานศึกษาและครู ยันหากสอบสวนพบจงใจโกงจริง เจอโทษถึงขั้นให้ออกจากราชการทันที
    นายรังสรรค์ เกล็ดมณี รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เปิดเผยความคืบหน้ากรณีทุจริตจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอลว่า ขณะนี้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) ได้ลงไปเก็บข้อมูลที่จังหวัดอุตรดิตถ์และนครราชสีมา กำลังสรุปข้อมูลเพื่อรายงานยัง ดร.กมล รอดคล้าย เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และมีการวางแผนลงพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลเพิ่มทั้ง 37 เขตทั่วประเทศ ที่ได้เงินจัดซื้อฟุตซอลไปประมาณกว่า 690 ล้านบาท และจากรายชื่อที่ทาง ป.ป.ท.ส่งมานั้น ส่วนใหญ่จะเป็นผู้บริหารสถานศึกษาและครู เพราะโรงเรียนเป็นผู้ดำเนินการในจัดซื้อจัดจ้าง ซึ่งต่อจากนี้กระบวนการอยู่ในขั้นศึกษาทั้งข้อมูลของทาง ป.ป.ท.และจากทางที่ สพฐ.ลงพื้นเอง และหากพบข้อมูลที่พอจะเชื่อได้ว่าเป็นการทุจริตก็จะมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นเพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงเพื่อพิจารณาโทษต่อไป อย่างไรก็ตาม หากพบว่าเป็นการกระทำที่จงใจทุจริตทำให้ทางราชการเสียหาย ก็จะมีโทษให้ออกจากราชการทันที
    นายรังสรรค์กล่าวต่อว่า ตอนนี้ทาง สพฐ.ให้ความเป็นธรรมกับครูและผู้บริหารของโรงเรียนต่างๆ อย่างเต็มที่ เพราะยังเชื่อว่าผู้บริหารและครูยังคงบริสุทธิ์อยู่ ทั้งงบแปรญัตติดังกล่าว ทาง สพฐ.ได้จัดสรรในรูปแบบวงเงินรวมให้ในแต่ละเขตพื้นที่เป็นผู้จัดสรร โดยการตั้งคณะกรรมการพิจารณาแบ่งงบประมาณให้แก่โรงเรียน และระบุว่าควรทำอะไรบ้าง หากกิจกรรมที่คณะกรรมการระบุให้ไม่มีความจำเป็นแก่โรงเรียน ทางโรงเรียนก็สามารถที่จะขอเปลี่ยนแปลงการใช้งบประมาณจากผู้ว่าราชการจังหวัดได้   
    ก่อนหน้านี้ ป.ป.ท.เปิดเผยว่า ได้ส่งรายชื่อผู้เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างสนามฟุตซอลที่ส่งให้ สพฐ.จำนวน 727 คน.

นสพ.ไทยโพสต์