วันอังคารที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

ชงใช้ ม.44 ปรับโครงสร้างศธ.

(24 พ.ย.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการปรับโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ขณะนี้แต่ละองค์กรหลักใน ศธ. เริ่มมีการแต่งตัว เพื่อรอรับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกันแล้ว อย่างไรก็ตามการปรับโครงสร้างศธ.นั้น สภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศจะเป็นผู้พิจารณา โดยตนจะขอให้พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ในการปรับโครงสร้างศธ. ที่รวมอาชีวศึกษาของรัฐและเอกชนเข้าด้วยกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วน
ด้าน ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการยุบรวมอาชีวศึกษาของรัฐและเอกชน มาอยู่รวมกันภายใต้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า จากการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจการรวมอาชีวศึกษาภาครัฐและเอกชน ที่ประชุมได้มีการกำหนดหลักการ 5-5-5 ดังนี้ 5 หลักการแรก คือ
1.การยุบรวมอาชีวะรัฐและเอกชนต้องยึดความสบายใจของผู้ทำงานทั้งส่วนกลาง และ สถานศึกษา
2.ความเป็นเอกภาพในการจัดการอาชีวศึกษา
3.ความมีอิสระในการบริหาร
4.การทำงานโดยยึดพื้นที่เป็นฐาน
5.เน้นการรวมเพื่อเสริมกันและกัน ซึ่งจะมีการทำงานใน 5 ภารกิจสำคัญ ได้แก่
1.ภารกิจวิชาการและความร่วมมือ
2.ภารกิจด้านการบริหารงบประมาณและกองทุน
3.ภารกิจด้านการบริหารงานทั่วไป
4.ภารกิจด้านการบริหารงานบุคคล
5.ภารกิจด้านกฎหมายและโครงสร้าง
นอกจากนี้ในการทำงานต้องสนองนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ 5 เรื่อง คือ 1.ความร่วมมือกับภาคเอกชน 2.การจูงใจให้มาเรียนอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้น 3.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาท 4.การพัฒนาอชีวะเฉพาะทาง และ 5.การพัฒนาอาชีวะสู่มาตรฐานสากล เลขาธิการ กอศ.กล่าวด้วยว่า คณะทำงานเฉพาะกิจฯ ได้กำหนดว่าจะเริ่มมาปฏิบัติงานร่วมกัน ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ม.ค.2559 โดยวางโรดแมป เป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะแรก เริ่มต้นการปฏิบัติงานร่วมกันภายในเดือน ม.ค.2559 ระยะที่ 2 ลงมือปฏิบัติงานร่วมกันตั้งแต่เดือน ก.พ.-ก.ย.59 และระยะที่ 3 เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2560 ตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งภารกิจเร่งด่วน คือ การออกระเบียบ หรือ คำสั่งทางการบริหาร เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ โดยจะมีการวางแผนพัฒนาครู วางแผนการรับนักเรียน นักศึกษา ในปีการศึกษา 2559 ทั้งนี้ ได้หารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อเตรียมการด้านงบประมาณ ปี 2559 และ ปี 2560
นสพ.เดลินิวส์

ไม่มีความคิดเห็น: