(24 พ.ย.) พล.อ.ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ กล่าวถึงการปรับโครงสร้างของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ว่า ขณะนี้แต่ละองค์กรหลักใน ศธ. เริ่มมีการแต่งตัว เพื่อรอรับการปรับเปลี่ยนโครงสร้างกันแล้ว อย่างไรก็ตามการปรับโครงสร้างศธ.นั้น สภาขับเคลื่อนปฏิรูปประเทศจะเป็นผู้พิจารณา โดยตนจะขอให้พล.อ.ประยุทธ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ใช้มาตรา 44 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ในการปรับโครงสร้างศธ. ที่รวมอาชีวศึกษาของรัฐและเอกชนเข้าด้วยกัน ซึ่งถือเป็นเรื่องเร่งด่วน
ด้าน ดร.ชัยพฤกษ์ เสรีรักษ์ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (กอศ.) กล่าวถึงความคืบหน้าการยุบรวมอาชีวศึกษาของรัฐและเอกชน มาอยู่รวมกันภายใต้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) ว่า จากการประชุมคณะทำงานเฉพาะกิจการรวมอาชีวศึกษาภาครัฐและเอกชน ที่ประชุมได้มีการกำหนดหลักการ 5-5-5 ดังนี้ 5 หลักการแรก คือ
1.การยุบรวมอาชีวะรัฐและเอกชนต้องยึดความสบายใจของผู้ทำงานทั้งส่วนกลาง และ สถานศึกษา
2.ความเป็นเอกภาพในการจัดการอาชีวศึกษา
3.ความมีอิสระในการบริหาร
4.การทำงานโดยยึดพื้นที่เป็นฐาน
5.เน้นการรวมเพื่อเสริมกันและกัน ซึ่งจะมีการทำงานใน 5 ภารกิจสำคัญ ได้แก่
1.ภารกิจวิชาการและความร่วมมือ
2.ภารกิจด้านการบริหารงบประมาณและกองทุน
3.ภารกิจด้านการบริหารงานทั่วไป
4.ภารกิจด้านการบริหารงานบุคคล
5.ภารกิจด้านกฎหมายและโครงสร้าง
1.การยุบรวมอาชีวะรัฐและเอกชนต้องยึดความสบายใจของผู้ทำงานทั้งส่วนกลาง และ สถานศึกษา
2.ความเป็นเอกภาพในการจัดการอาชีวศึกษา
3.ความมีอิสระในการบริหาร
4.การทำงานโดยยึดพื้นที่เป็นฐาน
5.เน้นการรวมเพื่อเสริมกันและกัน ซึ่งจะมีการทำงานใน 5 ภารกิจสำคัญ ได้แก่
1.ภารกิจวิชาการและความร่วมมือ
2.ภารกิจด้านการบริหารงบประมาณและกองทุน
3.ภารกิจด้านการบริหารงานทั่วไป
4.ภารกิจด้านการบริหารงานบุคคล
5.ภารกิจด้านกฎหมายและโครงสร้าง
นอกจากนี้ในการทำงานต้องสนองนโยบายสำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ 5 เรื่อง คือ 1.ความร่วมมือกับภาคเอกชน 2.การจูงใจให้มาเรียนอาชีวศึกษาเพิ่มขึ้น 3.การป้องกันและแก้ไขปัญหาการทะเลาะวิวาท 4.การพัฒนาอชีวะเฉพาะทาง และ 5.การพัฒนาอาชีวะสู่มาตรฐานสากล เลขาธิการ กอศ.กล่าวด้วยว่า คณะทำงานเฉพาะกิจฯ ได้กำหนดว่าจะเริ่มมาปฏิบัติงานร่วมกัน ตั้งแต่ช่วงปลายเดือน ม.ค.2559 โดยวางโรดแมป เป็น 3 ระยะ ดังนี้ ระยะแรก เริ่มต้นการปฏิบัติงานร่วมกันภายในเดือน ม.ค.2559 ระยะที่ 2 ลงมือปฏิบัติงานร่วมกันตั้งแต่เดือน ก.พ.-ก.ย.59 และระยะที่ 3 เริ่มดำเนินการในปีงบประมาณ 2560 ตั้งแต่เดือน ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งภารกิจเร่งด่วน คือ การออกระเบียบ หรือ คำสั่งทางการบริหาร เพื่อให้สามารถทำงานร่วมกันได้ โดยจะมีการวางแผนพัฒนาครู วางแผนการรับนักเรียน นักศึกษา ในปีการศึกษา 2559 ทั้งนี้ ได้หารือกับสำนักงบประมาณ เพื่อเตรียมการด้านงบประมาณ ปี 2559 และ ปี 2560
นสพ.เดลินิวส์
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น